จากศัตรูพืชและแมลงปีกบินทั้งหมดที่เจ้าของบ้านต้องเผชิญไม่มีแมลงพันธุ์ใดที่สร้างความเสียหายได้สุดคณานับเหมือนปลวก พวกมันเหล่านี้กินเซลลูโลสซึ่งเป็นวัสดุเส้นใยอินทรีย์ในไม้และพืชซึ่งหมายความว่าพวกมันจะกินบ้านของคุณอย่างแท้จริง ดังนั้นคุณจะต้องกำจัดปลวกอย่างรวดเร็ว

การเริ่มต้นของการรบกวนของปลวก (TERMITE)

มีสองวิธีหลักที่ปลวกอาจเข้ามาบุกรุกบ้านของคุณสมมติว่าพวกมันไม่ได้อยู่ที่นั่นในตอนแรกทั้งทางอากาศและผ่านพื้นดิน การระบาดของปลวกไม้แห้งมักเกิดขึ้นเมื่ออาณานิคมที่มีอยู่ส่งฝูงปลวกบินออกไป เมื่อฝูงเหล่านี้พบรอยแยกที่ทำจากไม้ในบ้านของคุณพวกมันจะกำจัดปีกพร้อมทำการเริ่มสลักทำรังเล็กๆและเริ่มวางไข่เพื่อเริ่มอาณานิคมปลวกใหม่เอี่ยม ในทางกลับกันปลวกใต้ดินที่มีอาณานิคมอยู่ใต้ดินอาจเข้ามาในบ้านของคุณผ่านทางเศษไม้ ใบไม้แห้งหรือกระดาษที่ปลวกมันกินเป็นอาหาร เมื่อปลวกเหล่านี้หาอาหารพวกมันอาจสะดุดกับแหล่งอาหารใหม่ที่อุดมไปด้วยเซลลูโลสอันโอชะที่อยู่ภายใต้บ้านของคุณ ปลวกใต้ดินมักสร้างอุโมงค์โคลนเหนือกำแพงฐานรากบ้านเพื่อเข้าถึงส่วนที่เป็นไม้ของโครงสร้าง จากการศึกษาพบว่าปลวกใต้ดินทำความเสียหายโดยรวมได้มากถึง 95% ของความเสียจากปลวกทั้งหมด

สัญญาณการบุกรุกของปลวก

หนึ่งในเหตุผลหลักที่ปลวกสามารถสร้างความเสียหายได้ก็คือเจ้าของบ้านจำนวนมากมักพบความเสียหายการทำลายล้างอย่างรุนแรงในภายหลังที่ปลวกได้กัดกินบ้านคุณไปแล้ว การกำจัดปลวกก็เหมือนการรักษาโรคมะเร็งหากตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆจะเป็นโอกาสค่อนข้างดีแต่เมื่อตรวจจับไข้ได้ช้าการรักษามะเร็งก็จะเจ็บปวดเช่นเดียวกับการกำจัดปลวกตรวจพบเร็วจะทำการบำบัดได้ง่ายหากล่าช้าก็จะทำการรักษาปลวกยากและใช้การบำบัดที่เข้มข้นกว่าปกติ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณเรียนรู้ที่จะสังเกตเห็นสัญญาณของการระบาดของปลวก โดยสังเกตุระวังสิ่งต่อไปนี้

1. แมลงปีกบิน

หากคุณเห็นฝูงปลวกมีปีกอยู่ใกล้หรือรอบๆบ้านนั่นเป็นสัญญาณว่ามีฝูงปลวกอยู่ใกล้ๆ ปลวกปีกเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะจับกลุ่มรอบแหล่งกำเนิดแสง เช่น แสงไฟนีออน แสงไฟฟ้าทั่วไฟ เป็นต้น พวกมันมีลักษณะค่อนข้างคล้ายกันซึ่งคนเราจะไม่สามารถแยกพวกมันออกจากกันได้

2. ปีกที่ถูกทิ้งร้างของฝูงแมลงปีกบิน

ฝูงปลวกที่เป็นแมลงปีกบิน มันไม่ได้รักษาปีกของมันไว้นาน เมื่อพวกมันสลัดปีกออกแล้ว พวกมันจะค้นหาสถานที่เพื่อสร้างรังใหม่ หากคุณสังเกตเห็นกองปีกขนาดเล็กที่ถูกทิ้งร้างในสถานที่ เช่น ขอบหน้าต่างหรือติดใยแมงมุมอาจมีฝูงปลวกอยู่ใกล้ๆให้สังเกตุเฝ้าระวังหรือจะเริ่มทำการค้นหาตัวปลวกในบริเวณนั้นเป็นการเริ่มต้น

3. ท่อโคลน

ปลวกใต้ดินสร้างท่อโคลนซึ่งบางครั้งเรียกว่าที่พักพิงหรือหาเหยื่อหลอด ท่อโคลนเป็นอุโมงค์เล็กๆที่สร้างขึ้นโดยปลวกเพื่อส่งอาหารกลับคืนสู่อาณานิคม เป็นเส้นคมนาคมระหว่างแหล่งอาหารและอาณานิคมของมัน สิ่งเหล่านี้ทำมาจากดิน เศษซากและไม้และช่วยปกป้องอาณานิคมจากสัตว์นักล่าและรักษาความชุ่มชื้นทำให้สภาพแวดล้อมคงไว้ซึ่งการดำรงชีวิตของปลวกทั้งรัง หากคุณมีการรบกวนของปลวกใต้ดินคุณจะพบหลอดเหล่านี้ที่ฐานของบ้านของคุณหรือในโครงสร้างย่อยในอาณานิคมของปลวก

4. อาณานิคมปลวก

เมื่อปลวกใต้ดินได้แหล่งอาหารเป็นไม้ที่มีเซลลูโลสในบ้านของคุณพวกมันจะสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยให้เป็นดั่งอาณานิคมปลวก นี่คือช่องว่างที่เหลืออยู่ในป่าเมื่อมันได้แหล่งอาหารใหม่ในบ้านคุณ โดยทั่วไปแล้วอาณานิคมของปลวกจะวิ่งขนานไปกับเนื้อไม้

5. พบมูลของปลวกก่อนปลวกหลบหนีหรือย้ายรัง

ปลวกมันจะทิ้งมูลของมันไว้บริเวณรอบๆแหล่งที่มันใช้เป็นแหล่งอาศัยหรือตามเส้นทางเดินของมันในขณะที่มันกัดแทะไม้ในบ้านของคุณ มูลของปลวกมักเรียกว่า frass เป็นรูปเม็ดและดูเหมือนเม็ดทรายหนักหรือขี้เลื่อย หากคุณพบว่ามีมูลของปลวกตกค้างในและรอบๆบ้านของคุณ คุณอาจพบว่ามีการรบกวนของปลวกไม้แห้ง

6. ไม้มีสีที่เปลี่ยนไปจากเดิม

ปลวกจะกินแผ่นหรือชิ้นไม้ในบ้านของคุณจากภายในแผ่นไม้สู่ภายนอก นั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกปลวกนี้ร้ายกาจนัก พื้นผิวด้านนอกของไม้ดูปกติอย่างสมบูรณ์แต่จะเต็มไปด้วยปลวกด้านใน หากคุณสงสัยว่ามีการรบกวนของปลวกในบางพื้นที่ให้แตะหรือเจาะไม้เพื่อดูว่าเป็นโพรงหรือไม่ เมื่อปลวกมันกินด้านในของเนื้อไม้จนเกือบจะถึงด้านนอกของไม้ทำให้เนื้อไม้เหลือเพียงบางๆ รอยแยกเริ่มปรากฏบนพื้นผิวความเสียหายมีแนวโน้มที่จะกว้างขวางมาก              

7. พื้นผิวไม้มีฟองหรือสีลอก

ปลวกชอบบริเวณที่มืดและชื้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมปลวกมันจึงอาศัยอยู่ใต้พื้นไม้และนำความชื้นเข้าไปในอาณานิคมปลวกมันได้ ความชื้นนี้มักจะทำให้ไม้บวม หากคุณมีปลวกในพื้นไม้ของคุณพื้นผิวไม้อาจเริ่มบวม ในทำนองเดียวกันความชื้นอาจทำให้สีบนพื้นผิวไม้เกิดฟองหรือลอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปลวกกินไปจนถึงชั้นสี สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นเป็นสำคัญนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ว่าสัญญาณนี้ไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของน้ำเพราะน้ำก็สามารถทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่อุดมไปด้วยความชื้นได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความสับสนและควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าไม้ที่สมบูรณ์กลายเป็นโพรงนั้นเกิดจากปลวกกัดกินไม่ใช่เกิดจากการรั่วซึมสะสมของน้ำซึ่งคุณควรแยกการรั่วไหลของน้ำออกก่อน